การเข้าหัวสาย LAN เป็นพื้นฐานของเราชาวเน็ตเวิร์กอยู่ละครับ ถึงแม้ผู้ใช้ทั่วไปอาจมองว่าการซื้อสายที่เข้าหัวสำเร็จตามความยาวมาตรฐาน 5 เมตร 10 เมตร 15 เมตร (ซึ่งจะมีแต่สายที่เข้าหัวแบบสายตรง หรือ Straight-through) ราคาไม่กี่ร้อยบาทจะเป็นความสะดวก
แต่ถ้าในการวางระบบร้านเน็ตร้านเกมส์จริงแล้ว ที่ต้องใช้สายแลนจำนวนมาก (อย่างน้อยก็ต้องเท่ากับจำนวนเครื่องคอมพ์ทั้งหมด รวมกับสายแลนที่เชื่อมระหว่างสวิตช์ (หรือบางคนเรียก Hub อยู่แบบผิดๆ) กับ router (หรือบางคนยังเรียกว่า modem) รวมถึงสาย uplink ที่อาจต้องเชื่อมระหว่าง switch ด้วยกันเองเพื่อขยาย port หรือแบนด์วิธกรณีมีจำนวนคอมพ์ที่ต้องใช้พอร์ตบนสวิตช์มากเกินจำนวนพอร์ตมาตรฐานมากสุดบนสวิตช์ เช่น มากกว่า 48 พอร์ต/เครื่อง เป็นต้นครับ)
ดังนั้น จึงควรซื้อายแลนแบบเป็นม้วนหลายเมตร แล้วมาเข้าหัวเองเพื่อให้ได้จำนวนและความยาวที่เหมาะสมในร้านเกมส์แต่ละร้าน จะดูเหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดครับ^^
สายที่ควรใช้กับระบบ diskless หรือระบบ no harddisk ตอนนี้ จะต้องรองรับแบนด์วิธระดับกิกะบิท ซึ่งโอเคที่ตามมาตรฐานระบุว่าสายแบบ Cat 5e รองรับสูงสุดถึง 1 Gbps ได้ แต่ด้วยความบกพร่องของเราเองบ้างในการเข้าหัวสายไม่แน่น หรือคุณภาพสายก็ดี จุดบอดอื่นๆ ก็ดี ก็ควรใช้สายมาตรฐานสูงกว่า อย่าง Cat 6 ที่มีระบบการป้องกันสัญญาณรบกวน และรองรับแบนด์วิธได้มากกว่า เพื่อความปลอดภัยครับผม
ความแตกต่างของสาย Cat5e ที่หลายคน (สมัยก่อน) คุ้นเคย กับ Cat6 คือ ตัว Cat6 จะมีแกนพลาสติกที่คอยแยกสายทองแดงย่อย (หรือเรียกสาย Pair) แต่ละเส้นไม่ให้อยู่ชิดกัน เพื่อป้องกันสัญญาณแม่เหล็กอ่อนที่วิ่งออกมาตั้งฉากรบกวนคลื่นกันและกัน (Crosstalk) เราจึงสังเกตว่าสาย Cat6 จึงแข็งกว่า เข้าหัวยากกว่า (ตัวขนาดสายแพร์ย่อยก็เส้นใหญ่กว่า (ขนาด AWG) ด้วย) แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราครับผม
มาเริ่มลองวิธีเข้าหัวสายแลนอย่างง่ายตามรูปกันเลยครับ^^
1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมกันเลยครับ
- สายแลน Cat6 ยี่ห้อ AMP แท้ (ในรูปนี้แอบซื้อสายมาตรฐานสั้นๆ ไว้กะสาธิตอย่างเดียวเลย ของจริงคงตัดจากม้วนใหญ่ๆ มาตามความยาวที่ต้องการนะครับ^^)
- หัวสายแลน เวลาไปซื้อ ให้ไปบอกที่ร้านว่า ขอหัวสายแลนแบบ RJ45 และเป็น CAT6 ยี่ห้อ LINK ครับผม
- กรรไกร หรือถ้ายกระดับมาหน่อยกว่าจะมีชุดปลอกสายแลนที่คล้ายๆ มีดพก แต่ไว้หมุนๆ ก็ปลอกเปลือกสายได้เหมือนกันครับ (ในที่นี้ใช้กรรไกรพอหาง่ายกันอยู่)
- คีมย้ำสาย เอาไว้เวลาเรียงสายแพร์สอดเข้าหัวแล้ว เราก็ต้องเอามาใส่คีมย้ำ กึ๊บๆ ให้แน่นใช่ไหมครับ^^ ในที่นี้ใช้คีมยี่ห้อ LINK ครับ
- ฉลากใส่สาย แต่บางทีไม่ต้องเสียตังค์ก็ใช้สก็อตเทปกับกระดาษตัดเขียนเลเบลไว้แปะปล่อยหางมาก็พอได้อยู่ครับ
- เครื่องทดสอบสายแลน เพื่อดูว่าสายไม่ขาดในแต่ละแพร์ อันนี้เป็นแบบอย่างง่ายครับผม
2. ก่อนอื่น ปอกสายข้างนอกลึกประมาณนิ้วนึง แล้วแบะคู่สายพันเกลียว (Twisted Pair) ทั้ง 4 สีแยกออกจากกันก่อน จากนั้นพยายามใช้กรรไกรตัดแกนพลาสติกแข็งตรงกลางให้กุดที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ
3. จากนั้นถึงเวลาเรียงสายกันละ ในที่นี้เราจะทำเป็นสายตรง เพราะฉะนั้นหัวสายทั้งสองข้างต้องเรียงเหมือนกัน
ตามมารยาท เอ้ย มาตรฐาน 555+ ควรใช้เรียงแบบ "ขาวส้ม" ขึ้นต้นก่อน สำหรับสายตรง (เป็นแบบ EIA/TIA-568B)
ซึ่งตอนเด็กเวลาเรียนก็จะท่องเป็นกลอนใช่ไหมครับว่า "ขาวส้ม-ส้ม-ขาวเขียว-น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน-เขียว-ขาวน้ำตาล-น้ำตาล"
ความรู้เพิ่มเติม: ถ้าจะทำสายไขว้ เช่น จะใช้ต่อระหว่างสวิตช์รุ่นเก่าหน่อย (ที่ยัง detect MDI/MDI-x แบบ auto ไม่ได้) อย่าง cisco cat2950 หรือต่อระหว่างคอมพ์ หรือต่อตรงระหว่างคอมพ์กับเราท์เตอร์/โมเด็มเลยไม่ผ่านสวิตช์ พวกนี้ใช้สายตรงไม่ได้นะครับ สัญญาณวิ่งชนกันหมด เพราะเป็นการต่อแบบผิดธรรมชาติ ต้องใช้สายไขว้ให้ไขว้ในสายเอง กรณีสายไขว้ก็จะเรียงด้านนึงขึ้นต้นด้วย "ขาวเขียว" (แบบ EIA/TIA-568-A = ขาวเขียว-เขียว-ขาวส้ม-น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน-ส้ม-ขาวน้ำตาล-น้ำตาล) ส่วนอีกด้านก็เรียงแบบขาวส้มไปตามปกติ สังเกตว่าคู่สายที่ไขว้จะเป็นเส้นที่ 1,2,3,6 เพราะภาวะพอร์ตปกติบนคอมพ์หรือโมเด็ม/เราเตอร์ (MDI) จะส่งสัญญาณออกมาที่เส้น 1,2 และรับที่ 3,6 แต่พอร์ตบนสวิตช์จะไขว้ในพอร์ต (MDI-X) คือจะรับที่เส้น 1,2 และส่งที่เส้น 3,6 ครับผม^^
4. เอาเส้นที่เรียงกางๆ ไว้ มาเรียงแน่นชิดกัน ตรงๆ พร้อมตัดหน้าตัดตรงกันครับ
5. อันนี้มีเทคนิคด้วยการตัดเป็นแนวเฉียงก่อน จะได้ยัดปลอกตัวช่วยนี้เข้าได้โดยง่าย
6. ตัดแล้วจะได้เรียงหน้าตัดเป็นมุมแหลมแบบนี้ พร้อมใส่ปลอกได้ง่าย^^
7. เอาแกนหัวสายแลนตัวช่วยมาใส่ โดยให้ด้านแหลมชี้ขึ้นครับ
8. ดูให้ดีนะครับว่าด้านหน้าที่เข้าหาตัวเรา ปลอกจะเป็นด้านแหลมขึ้นมาหา และเส้นขาวส้มอยู่ซ้ายมือสุดครับ
9. พลิกให้ดูอีกมุมนึง เช็คก่อนเข้าหัวนะครับว่าเรียงด้านเรียงเส้นถูกต้อง เพราะหัวนึงแพงอยู่ 5 - 10 บาท กึ๊บๆ แล้ว แก้ไม่ได้ ต้องตัดทิ้งเข้าใหม่ด้วยหัวใหม่อย่างเดียว
10. โอเค ตอนนี้หมดประโยชน์ของปลายแหลมแล้ว ให้ตัดหน้าตัดตรงให้เหลือสั้นที่สุด (แต่ไม่กุด) และหน้าตัดตรง
11. พลิกเช็คดูให้ดีว่าหน้าตัดตรงเสมอกันแล้ว (ถ้าไม่เสมอกัน ถึงใช้ได้ก็เหมือนเสียบปลั๊กไฟไม่แน่น ทำให้ประสิทธิภาพสายแลนต่ำลงครับ)
12. เอาหัวสายแลน RJ-45 ที่เตรียมไว้มาใส่ พลิกด้านขั้วทองแดงเข้าหาเรา เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นด้านเดียวกัน ทั้งสายสีขาวส้มอยู่ด้านซ้าย ปลอกที่ด้านแหลมชี้ขึ้น และหัวสายแลนที่หันด้านขั้วทองแดงขึ้นมาครับ
13. ยัดหัวเข้าไป ดันให้สุดๆ เลยครับ เพื่อแน่ใจว่าปลายสายทองแดงเสมอติดกับขั้วจริงๆ
14. ถึงเวลากึ๊บๆ แล้วครับ เอาหัวสายแลนที่เตรียมไว้ยัดเข้ารูในคีบหนีบสาย รูที่เขียนว่า "8P" (มาจากเส้นที่ 8 คู่สาย (pair) 8 ขั้ว หรือ RJ-45 นั่นเอง)
15. งับแรงๆ เลยครับ กึ๊บๆ สัก 2 - 3 ครั้ง^^
16. ได้ละครับหัวสายแลนข้างนึง ลองไปทำอีกข้างนึงแล้วมาเทสกันครับ
17. อันนี้เราเทสด้วยเครื่องไฟเขียวไฟแดง (ศัพท์ช่าง หมายถึงอุปกรณ์เทสรุ่นโปเกสุด) ว่าไฟฟ้าวิ่งถึงกันได้ครบทุกเส้นหรือเปล่า (พวกมืออาชีพที่แคร์เรื่องสัญญาณรบกวนและประสิทธิภาพสาย จะใช้เครื่องไฮเทคหน่อยเช่น Fluke ครับ^^)